AviClear Acne Program
ที่ Remede Wellness Clinic เราภูมิใจที่เป็นผู้ให้บริการกลุ่มแรกในเอเชียที่นำเสนอ AviClear ซึ่งเป็นนวัตกรรมการรักษาสิวระยะยาว
AviClear Program รักษาสิวที่ต้นตอ
สิวเกิดจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมัน (sebum) ออกมาเยอะเกินไป ผสมกับเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ เกิดการอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นสิว สิวไม่เพียงแต่เป็นปัญหาทางด้านความงามแต่ยังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกมั่นใจในตัวเองอีกด้วย
AviClear คืออะไร?
AviClear เป็นการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ โดยออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสิวที่ต้นตอ มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวและความปลอดภัย มอบความสบายใจให้แก่ผู้ที่เผชิญปัญหาสิวเรื้อรังมาเป็นเวลานานและไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม สามารถรักษาได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองจาก Health Canada ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว
AviClear ทำงานอย่างไร?
AviClear ใช้ความยาวคลื่นพิเศษ 1726 นาโนเมตร ซึ่งมุ่งตรงเข้าควบคุมการทำงานของต่อมไขมันที่เป็นสาเหตุของการผลิตน้ำมันที่เกินไปในผิว และนำไปสู่การเกิดสิว ด้วยการลดน้ำมันส่วนเกิน
การรักษานี้ช่วยลดการเกิดสิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง จึงเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับทุกช่วงวัย ทุกประเภทผิว และทุกประเภทของสิว รวมถึงสิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวตุ่มแดง สิวหัวหนอง สิวอักเสบ และสิวซีสต์
ใครเหมาะสำหรับการรักษาด้วย AviClear
AviClear เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ยารักษาสิวระยะยาว เพียงเข้ารับการรักษา 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ผู้ป่วยสามารถสัมผัสถึงการลดลงของสิวที่ยาวนานถึงสองปี ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Remede Wellness Clinic จะคอยให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจประเมินอย่างละเอียดไปจนถึงการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลในระดับมาตรฐานสูงสุด AviClear ไม่เพียงแต่ผ่านมาตรฐาน FDA สหรัฐฯ ที่เข้มงวด แต่ยังเป็นโซลูชั่นระยะยาวที่เชื่อถือได้ในการควบคุมและลดปัญหาสิว
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
รักษาสิวด้วย AviClear ดียังไง?
✔️ รักษาเพียง 3 ครั้ง ใช้เวลาในการรักษาเพียง 30 นาทีต่อครั้ง
✔️ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
✔️ไม่ต้องเจาะเลือดระหว่างการรักษา
✔️ ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิวและระดับความรุนแรงของสิว
✔️ ปลอดภัยตลอดทั้งปี
✔️ ผู้เข้ารับการรักษาพึงพอใจเป็นอย่างสูง
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
รักษาสิวด้วยเครื่อง AviClear ทำกี่ครั้งเห็นผล?
การทำ AviClear ควรเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั ้ง โดยการทำในแต่ละครั้งจะเว้นเวลาการทำ 1 เดือนต่อ 1 ครั้ง รวมระยะเวลาเป็น 3 เดือน เห็นผลลัพธ์การรักษาที่ดีและชัดเจน สิวเริ่มหาย ผิวก็จะดูเรียบเนียนมากขึ้น
ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล?
คุณจะเริ่มสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังจากการรักษาครั้งสุดท้าย ผลลัพธ์อาจดีขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การเตรียมตัวก่อนการรักษาสิว
การดูแลรักษาสิวต้องอาศัยการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลผิวและพิจารณาการรักษาด้วยโปรแกรม AviClear ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ขณะทำการรักษาด้วย AviClear
ผู้ป่วยหลายรายอธิบายถึงความรู้สึกระหว่างทำการรักษาด้วย AviClear งานวิจัยทางการแพทย์ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ทำการรักษาสามารถรับการรักษา ได้โดยไม่ต้องใช้ยาชา เพราะมีทำความเย็นผิว
ข้อควรปฏิบัติหลังทำการรักษาด้วย Aviclear
-
หลังการรักษา 24 ชม.หากมีการระคายเคืองผิวหรือบวมแดง สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
-
หมั่นทาครีมบำรุงผิวเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
-
ป้องกันผิวด้วยทาครีมกันแดด SPF 30+ ทุกครั้งก่อนออกแดด
-
ภายหลังการรักษา 1-2 วัน หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น อาบน้ำร้อน และซาวน่า
-
ภายหลังการรักษา 1-2 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและโดนแดดจัด
-
ภายหลังการรักษา 1-2 วัน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สารผลัดเซลล์ผิว สครัปขัดผิว ครีมกำจัดขน
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว?
สิวเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม และปัจจัยภายนอก เช่น อาหารการกิน เครื่องสำอาง ความเครียด การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถส่งผลต่อการผลิตน้ำมัน การอุดตันของรูขุมขน และการอักเสบของผิวหนังได้ ทั้งนี้ แม้จะดูแลผิวอย่างดีแล้วก็ยังอาจเกิดสิวได้ เนื่องจากสิวมีปัจจัย ที่ซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผิวหนังจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
สิวมีกี่ประเภท?
สิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ สิวอักเสบและสิวไม่อักเสบ การรักษาจะแตกต่างกันออกไปตามชนิดของสิว
สิวอักเสบ
สิวอักเสบ เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ผสมกับแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังบริเวณนั้น ส่งผลให้ผิวมีลักษณะบวมแดง เจ็บ และอาจมีหนอง สิวอักเสบสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่
-
สิวตุ่มแดง (Papules)
เป็นสิวขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีแดง ไม่เจ็บ ไม่คัน เกิดจากการอักเสบเบื้องต้นของรูขุมขน -
สิวตุ่มหนอง (Pustules)
เป็นสิวที่มีหัวหนองสีขาวหรือเหลืองอยู่ตรงกลาง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผิวหนังอักเสบ บวมแดง และอาจมีอาการเจ็บ หรือคัน -
สิวตุ่มนูน (Nodules)
เป็นสิวขนาดใหญ่ ฝังลึกใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรง ผิวบริเวณนั้นบวมแดง เจ็บ และอาจมีหนอง เมื่อกดจะรู้สึกเจ็บมาก หากไม่รักษาอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ -
สิวซีสต์ (Cysts)
เป็นสิวอักเสบรุนแรงที่สุด มีขนาดใหญ่ ฝังลึกใต้ผิวหนัง มักพบเป็นกลุ่ม มีลักษณะคล้ายถุงน้ำหนอง อาจทำให้เกิดไข้และปวดเมื่อยตามตัวได้
สิวไม่อักเสบ
สิวไม่อักเสบ (Non-inflammatory acne) หรือ สิวอุดตัน เกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ทำให้ไม่มีอาการอักเสบ บวมแดง หรือเจ็บปวดเหมือนสิวชนิดอื่น ๆ สิวไม่อักเสบแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
-
สิวหัวดำ (Blackheads)
เป็นสิวอุดตันที่มองเห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีดำอยู่บนผิวหนัง เกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันเปิดออกสู่ภายนอก ทำให้ส่วนที่อุดตันสัมผัสกับอากาศและเปลี่ยนเป็นสีดำ มักพบตามบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น จมูก คาง และหน้าผาก -
สิวหัวขาว (Whiteheads)
เป็นสิวอุดตันที่มองเห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวอยู่ใต้ผิวหนัง เกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องเปิดสู่ภายนอก หากไม่รักษาอาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้
ทั้งสิวหัวดำและสิวหัวขาว โดยทั่วไปถือว่าเป็นสิวในระดับที่ไม่รุนแรง มักก่อให้เกิดอาการไม่สบายตัวเพียงเล็กน้อย
ทำไม Remede Wellness Clinic จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ
การรักษาสิวด้วย AviClear
เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการรักษาสิวที่มีคุณภาพสูง โดยเน้นที่ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสบายของผู้ป่วย ทีมงานที่มีประสบการณ์ ขั้นตอนที่ละเอียดถี่ถ้วน และการใช้เครื่องมือที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยของเราจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด